4G คืออะไร
ช่วงนี้ประเทศไทยเพิ่งได้ทำการประมูล 3G กันเสร็จไปมาดๆ ไม่นานมานี้ แต่จะเริ่มใช้จริงยังไม่ทราบได้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกันนะครับ พร้อมทั้งในโลก Social network ก็มีหลายคนบ่นว่าทำไมเมืองไทยไม่มี 4G สะที ประเทศเพื่อนบ้านเรา อย่างประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม เค้ามี 4G ใช้กันหมดแล้ว จะเป็นเพราะว่าเรื่องประมูล 3G ของเรามันล่าช้ากว่าก็อาจจะไม่ถูกทั้งหมดสะทีเดียว และมีอะไรมากกว่านั้นล่ะ เรามาลองดูกันครับ ผมจะเขียนจากที่ผมอ่านและรู้มา แล้วนำมาวิเคราะห์เองบ้าง เพื่อเป็นการบอกเล่าให้เข้าใจกันในส่วนนึงนะครับ
อย่างแรกเลยเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า 4G คืออะไร (หลายคนอาจจะรู้มาแล้วก็ไม่เป็นไรเน๊อะ)
4G หรือเทคโนโลยี LTE (Long Term Evolution) นั้นเป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายความเร็วสูงสุดในตอนนี้ ที่ถูกพัฒนาต่อจากยุค 1G 2G 3G ที่เราใช้กันอยู่นั่นเอง โดยสามารถส่งความเร็วอินเตอร์เน็ตได้สูงสุด 100 Mbps หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคือดาวโหลดได้สูงสุด 10000 kb/s กันเลยทีเดียว ส่วนอัพโหลดจะอยู่ที่ไม่เกิน 50 Mbps แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความเร็วจะขึ้นอยู่กับ user ที่ใช้งานร่วมกับคุณในพื้นที่นั้นๆ อุปกรณ์ที่รองรับ และรวมไปถึงคลื่นความถี่ที่ผู้ให้บริการปล่อยออกมา แน่นอนล่ะว่ามันไม่เท่ากัน …ด้วยความเร็วที่มากขนาดนี้สำหรับการสื่อสารไร้สาย แน่นอนว่ามันจะช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายและทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกของเราทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็มีมือถือ smartphone กันแทบทั้งนั้นแล้ว
จุดเด่นของ 4G
- แน่นอนเลยมันช่วยให้เราสะดวกมากขึ้น เข้าอินเตอร์เน็ตจากมือถือ Smartphone ได้ไวมาก ไม่ว่าจะเป็น video call ดู media ต่างๆได้ง่ายและไม่มีสะดุด เพราะด้วยความเร็วที่สูงของมันนั่นเอง
- สามารถทำเป็น hotspot แชร์ไปยังอุปกรณ์ที่รองรับ wifi ได้ และสามารถทำได้ดีกว่าตัว 3G
- ค่าใช้จ่ายถูกลง อันนี้อาจเป็นผลพ่วงมาจากที่ 4G นั้นจะมาในรูปแบบ Data อย่างเดียวทำให้ค่าใช้จ่ายน่าจะถูกลงกว่า 3G ที่ส่วนใหญ่จะขายร่วมกับ voice หรือบริการโทรนั่นเอง
จุดด้อยของ 4G
- อุปกรณที่รองรับ 4G แน่นอนว่ามันมีน้อยในตลาดตอนนี้ และบางรุ่นประเทศไทยก็ไม่ได้นำเข้ามาเพราะว่ายังไม่มี 4G นั่นเอง ฮ่าๆๆ แต่ก็ยังพอมีอุปกรณ์ที่รองรับได้ที่เรารู้จักกัน นั่นก็คือ iPhone5 iPad 4th gen และมือถือ Smartphone รุ่น hi-end ต่างๆ ที่ราคาค่อนข้างสูง และหลายคนก็คงจะลังเลในการซื้อกันหน่อยล่ะ
- การใช้งานด้าน voice อย่างที่รู้กันว่า 4G นั่นจะเน้นทางด้านการรับ-ส่ง Data กันมากกว่า หรือในปัจจุบันอาจจะเรียกว่าการใช้งานด้าน voice หรือโทรเข้า-ออกนั้นมันแทบจะไม่มีอุปกรณ์รองรับเลย อุปกรณ์รองรับ 4G ว่าหายากแล้ว อุปกรณ์ที่รองรับด้าน voice และ Data ของ 4Gไปพร้อมๆกันก็หายากมากๆยิ่งกว่า แถมอยู่ในช่วงเริ่มต้นในการพัฒนา หรือที่เราเรียกกันว่า Circuit Switch Fall Back คือการเปลี่ยนจากระบบ LTE ไปใช้งาน 3G ในการโทรเข้า-ออก
ทำไมประเทศไทยไม่มี 4G ใช้สะที ?
พอเห็นจุดเด่นและจุดด้อยของ 4G ไปแล้วนั้น หลายๆคนก็อาจจะมองออกแล้วว่าทำไมประเทศไทยยังไม่มี 4G ใช้กันสักที แล้วทำไมประเทศเพื่อนบ้านของเราไปใช้ 4G กันได้แล้ว เท่าที่ผมรู้มาบ้าง ก็คืออย่างประเทศลาวนั้น ประเทศเค้าไม่มีการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบใช้สาย หรือ ADSL แบบบ้านเรา ทำให้ประเทศของเค้านั้นต้องพึ่งการพัฒนาแบบไร้สายแทน จึงทำให้ลาวเป็นประเทศแรกๆในเอเชียที่ได้ใช้ 3G ก่อนใคร และทุกวันนี้ก็มี 4G ใช้กันแล้ว เหตุผลง่ายๆและพอจะเข้าใจได้คงเป็นเช่นนี้ครับ
ปัญหาอย่างอื่นที่พอจะนึกได้ ก็อาจจะเป็นการใช้งานทางด้าน Data อย่างเดียวของ 4G ลองนึกดูถ้าคุณใช้งาน 4G อยู่แล้วอยากจะโทรหาเพื่อน ใช่ครับมันทำแบบนั้นตรงๆไม่ได้ เพราะเทคโนโลยี 4G มันยังไม่รองรับการใช้งานด้าน Voice เต็มรูปแบบ ซึ่งยังอยู่ในการพัฒนา อย่างที่ผมบอกไปในจุดด้อยคือเราต้องหาอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานแบบ Circuit Switch Fall Back หรือ VoLTE (Voice over LTE) เพื่อที่จะใช้งานสลับไปมาระหว่าง 4G ไป 3G ได้ เท่าที่เห็นก็น่าจะมี Samsung Galaxy S3 ที่ทำได้ในเวลานี้
พอพูดมาถึงตรงนี้บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไม 4G มันโทรไม่ได้ เพราะอะไร ผมขออธิบายสั้นๆและเข้าใจง่ายนะครับ ก็คือว่าการใช้งาน 4G เวลามือถือของเราจับสัญญาณได้แล้วนั้น มันจะทำให้มือถือของคุณมี IP ติดเครื่องทันที แล้วจะทำการโยนระบบ circuit switch ที่ใช้เป็นช่องสัญญาณสำหรับการคุย (voice) ด้วยเสียงทิ้งไป ทำให้การโทรเข้า-ออก และรวมไปถึงการส่ง sms ก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าอยากจะโทรก็คงต้องโทรผ่านอินเตอร์เน็ตแทน ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ การใช้งาน skype tango หรือแอพฯหลายๆตัวก็คงจะขายดีกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
จากที่ผมกล่าวมาทั้งหมดก็อาจจะเป็นส่วนนึงที่จะทำให้คุณรู้ว่าทำไมประเทศไทยถึงยังไม่ควรมี 4G ไปเลยสะทีเดียว เพราะด้วย 3G ที่มายังไม่สมบูรณ์ เราจึงไม่ควรข้ามไปใช้ 4G เลยโดยทันที ต่อให้มีความพร้อมในการผลิตแล้วก็ตาม ยังไงสะการใช้งาน 3G ถ้ายังวางรากฐานไม่แข็งแรง แล้วถ้าเกิดการใช้งาน 4G ล่มลงไป ทีนี้การใช้งานทางด้าน voice ก็คงแย่ลงไปด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้งาน 3G ก็ควรเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อน และควรจะทำให้ดีมากๆด้วย ยังไงผมก็รู้สึกว่า 3G ก็ดูจะเป็นการใช้งานที่สมเหตุสมผลที่สุด เนื่องมาจากสามารถใช้งานได้ทั้ง Data และ Voice ไปพร้อมๆกันได้เลย โดยไม่ต้องสลับการใช้งานไป-มาให้เสียเวลาและยุ่งยาก และที่สำคัญไม่เปลืองแบตฯด้วย อย่าลืมว่าการใช้งาน Data แรงๆนั้น จะทำให้กินแบตฯเป็นอย่างมาก (แค่ 3G ก็กินแทบแย่แล้ว)
Betting in your city - Sporting 100
ตอบลบBetting 1등 사이트 in dental implants your 1xbet 먹튀 city casinosites.one - Sporting 100 토토사이트